♥ รางจืด สามารถล้างพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้ โดยการศึกษาทางเภสัชวิทยาของรางจืดครั้งแรก เริ่มจากแพทย์หญิงพาณี เตชะเสน คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่ารางจืดสามารถช่วยชีวิตแมวของท่านที่ถูกวางยาพิษได้ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ทำการศึกษาวิจัยรางจืดในการแก้พิษสารกำจัดศัตรูพืช ตั้งแต่ พ.ศ. 2522 - 2523 โดยเริ่มจากสารกำจัดศัตรูพืชในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต (เช่น โฟลิดอล พาราไทออน) ต่อมามีการศึกษาพบว่ารางจืดยังสามารถลดพิษของสารกำจัดศัตรูพืชกลุ่ม คาร์บอเนต เช่น เมโทรมิล ได้อีกด้วย | |  |
| | |
♥ รางจืด สามารถแก้พิษจากยาฆ่าหญ้าได้ ยาฆ่าหญ้าจำพวกพาราควอต นับเป็สารเคมีที่มีพิษร้ายแรงต่อร่างกายมนุษย์มากที่สุดชนิดหนึ่ง หากกินประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ก็สามารถทำให้คนตายได้ ซึ่งพาราควอตจะทำให้เนื้อเยื่อปอดถูกทำลายจนเสียชีวิตในที่สุด แต่จากรายงานของผู้ป่วยของโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี เก็บตัวอย่างเป็นเวลา 3 ปี มีผู้ป่วยที่กินพาราควอตมาที่โรงพยาบาล 64 ราย พบว่ามีผู้รอดชีวิตด้วยการใช้รางจืด 33 ราย แต่การรักษาพิษพาราควอตนั้นไม่ได้ให้แต่รางจืดอย่างเดียว จะมีการทำให้ผู้ป่วยอาเจียนออกมาก่อน แล้วล้างท้อง และทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะออกมามากๆ ให้สารต้านอนุมูลอิสระ โดยการให้วิตามินซีปริมาณสูงๆ และสเตียรอยด์ ร่วมกับการให้ยาต้มรางจืด วิธีเตรียมยาของทางโรงพยาบาลคือ นำใบแห้งหนัก 300 กรัม ใส่ในน้ำสะอาด 1 ลิตร ต้มในหม้อดินโดยใช้ไฟกลาง เดือดนาน 15 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น ให้ผู้ป่วยดื่ม หรือให้ทางสายยาง ครั้งละ 200 มิลลิลิตร ทุก 2 ชั่วโมง ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล แม้ว่ารายงานนี้ไม่ถือเป็นงานวิจัยแต่เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก | |  |
| | |
♥ รางจืด แก้พิษจากสัตวต์พิษ และพืชพิษ รายงานของการใช้รางจืดแก้พิษ จากโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กล่าวว่ามีผู้ป่วยที่กินไข่แมงดาทะเล 2 ราย มีอาการรุนแรงจนหมดสติต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทุกรายมีอาการชารอบปาก คลื่นไส้ อาเจียน อาการชาจะลามไปยังกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ที่เป็นอันตรายคือ ทำให้หายใจไม่ได้ อาการรุนแรง หมดสติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ วิธีการรักษาปัจจุบันไม่มีวิธีเฉพาะไม่มีสารแก้พิษโดยเฉพาะ ต้องรักษาแบบประคับประคอง จนผู้ป่วยขับเอาสารนี้ออกจากร่างกายได้หมด แพทย์ผู้รักษาได้ให้รางจืดจากการร้องขอของญาติ เมื่อกรอกไส่สายยางลงไป 40 นาที พบว่าอาการดีขึ้น แพทย์ผู้รักษารู้สึกประทับใจกันมาก และกล่าวว่า ถ้าทุกโรงพยาบาลในจังหวัดที่อยู่ชายทะเลสามารถปลูกต้นนี้ และใช้กับผู้ป่วยของตัวเอง จะช่วยให้อัตราการเสียชีวิตน้อยลงได้ | |  |
| | |
♥ รางจืด สู้มลภาวะ ออกฤทธิ์ต้านพิษของตะกั่วต่อสมอง ตะกั่วเป็นมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ที่มีรถติด มีโอกาสได้รับสารตะกั่วสูงกว่าคนทั่วไป จากงานวิจัยของสัตว์ทดลอง พบว่ารางจืดสามารถเข้าไปช่วยลดพิษของตะกั่ว ที่มีผลต่อความจำ และการเรียนรู้ของหนู และทำให้เซลล์ประสาทตายน้อยลง ด้วยกลไกการต้านออกซิเดชัน โดยตัวรางจืดเอง และการไปช่วยรักษาระดับเอนไซม์ที่เกี่ยวข้อง | |  |
| | |
♥ รางจืด ช่วยในการลด เลิกยาบ้า จากการที่ชาวบ้านนำรางจืดมาแก้พิษยาเสพติด ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงได้ศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดรางจืดต่อเซลล์สมอง พบว่ารางจืดมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทคล้ายกับสารเสพติดแอมเฟทามีน ทำให้คาดการได้ว่า ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยสารสกัดรางจืดอาจเกิดความพึงพอใจเช่นเดียวกับการรับยาเสพติด จึงสามารถนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องทุรนทุรายมาก จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่การรักษาด้วยสารสกัดสมุนไพรได้ผล | |  |
| | |
♥ รางจืด ต้านพิษเหล้า จากการที่ประชาชนส่วนหนึ่งได้นำรางจืดมาใช้ในการต้านพิษสุรา เช่นใช้เพื่อป้องกัน หรือลดอาการเมาเหล้า คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้ศึกษาวิจัยฤทธิ์ของรางจืดในการต้านพิษแอลกอฮอล์ต่อตับ พบว่าสารสกัดด้วยน้ำของรางจืดช่วย ป้องกันการตายของเซลล์ตับจากพิษของแอลกอฮอล์ ทั้งในหลอดทดลองและในหนูที่ได้รับแอลกอฮอล์ | |  |
| | |
♥ รางจืด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง การที่มีหมอยาพื้นบ้านจำนวนหนึ่งใช้รางจืดในการคุมเบาหวาน และความดัน จึงเกิดการทดลองที่สามารถสนับสนุนหลักการใช้ดังกล่าว คือ ในหนูเบาหวานที่ได้รับน้ำต้มใบรางจืด ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้ ยังพบว่าการให้สารสกัดด้วยน้ำของใบรางจืด มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด และทำให้เซลล์ของตับอ่อนฟื้นฟูขึ้นบ้าง ในเรื่องของฤทธิ์ลดความดันพบว่า น้ำสกัดจากใบรางจืดแห้ง มีผลทำให้ความดันโลหิตของหนูลดลง และทำให้หลอดเลือดแดงคลายตัว |
| | |
♥ รางจืด ต้าน แก้การอักเสบ หมอยาพื้นบ้านนิยมใช้รางจืดมารักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เช่น ผด ผื่นคัน แมลงกัดต่อย เริม งูสวัด มีการศึกษาว่ารางจืดมีฤทธิ์ต้านการอักเสบสูงกว่ามังคุด ประมาณ 2 เท่า และยังมีความปลอดภัยสูงกว่าอีกด้วย นอกจากนั้นยังพบว่า สารสกัดรางจืดในรูปแบบของครีมสามารถลดการอักเสบได้ดีเท่ากับสตีรอยด์ครีม |
| | |
♥ รางจืด ในฐานะผักพื้นบ้านที่มีความปลอดภัย รางจืดเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูงชนิดหนึ่ง ทั้งจากการที่ชาวบ้านกินยอดอ่อน ดอกอ่อนเป็นผัก ใช้ลวกกิน แกงกิน ได้เช่นเดียวกับผักพื้นบ้านทั่วๆ ไป |